วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ตัวอย่างสำนวนไทยและความหมาย


ตัวอย่างสำนวนไทยและความหมาย


อย่าแหย่เสือหลับ


ความหมายสำนวนนี้คือ อย่าก่อเรื่องกับผู้มีอำนาจ เพราะแม้ภายนอกจะดูสงบนิ่งแต่ถ้าผู้นั้นโกรธหรือไม่พอใจขึ้นมาก็สามารถทำร้ายหรือทำให้เกิดอันตรายแก่เราได้  เสือเป็นสัตว์ที่ดุร้ายอยู่แล้วเมื่อเราเอาไม้แย่ในขณะที่มันหลับมันย่อมไม่พอใจมันตื่นขึ้นมาอาจจะทำร้ายเราได้ ทำนองเดียวกันอย่าไปมีเรื่องกับผู้มีอำนาจเพราะจะทำให้เราเดือดร้อนแม้เขาจะดูสงบนิ่ง จึงเป็นที่มาของสำนวนไทยอย่าแหย่เสือหลับ



ไก่เห็นตีนงูงูเห็นนมไก่


    ความหมายของสำนวนนี้หมายถึง คนสองคนที่ต่างคนต่างรู้ เรื่องราวมีมาแต่เดิมของอีกฝ่ายมาเป็นอย่างดีหรือรู้ความลับของอีกฝ่าย โดยที่คนอื่นไม่ทราบหรือรู้เรื่องของคนสองคนนี้เลย เช่น คนสองคนทำตนเป็นคนมั่งมีหรือมีความรู้สูงเพื่้ออวดคนอื่น ๆ แต่ทั้งสองคนนี้ต่างรู้ไส้กันดีว่าแท้จริงแล้ว อีกคนหนึ่งก็ไม่มีเงิน อีกคนหนึ่งก็ไม่มีความรู้เลยอะไรเลย เมื่อมาพบกันเข้าจึงเท่ากับว่า ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วงูก็ไม่มีตีน ไก่ก็ไม่มีนม



แพ้เป็นพระชนะเป็นมาร

    ความหมายสํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการยอมแพ้หรือยอมความให้อีกฝ่ายเป็นผู้ชนะ เพื่อให้เรื่องราวที่มีปัญหาสงบหรือยุติลงด้วยการอดกลั้นระงับความโกธรไม่ต่อปากต่อคำ ถ้าหากไม่ยอมแพ้หรือต่อปากต่อคำไปอีกก็อาจจะมีปัญหาเป็นเรื่องเป็นราวบานปลายใหญ่โตเกิดขึ้นได้



แกว่งเท้าหาเสี้ยน


    ความหมาย คนที่ชอบทำอะไรเป็นการสอดแทรกหรือเข้าไปยุ่งกับเรื่องของผู้อื่นโดยไม่จำเป็น จนตัวเองได้รับความเดือดร้อนหรือคนที่ชอบรนหาเรื่องใส่ตัวแส่เข้าไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่นโดยไม่จำเป็นทั้งๆที่เรื่องนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนเองแม้แต่น้อยนิด จนตัวเองได้รับความเดือดร้อน หาเรื่องมาใส่ตัวเองแท้ๆอยู่ดีๆไม่ชอบกลับหาเรื่องเดือดร้อนมาใส่ตัวเอง



หนีเสือปะจระเข้


    ความหมายสำนวนนี้ หมายถึงการหนีภัยอันตรายหรือสิ่งเลวร้ายอย่างหนึ่งแล้วแต่ต้องมาพบภัยอันตรายอีกอย่างหนึ่งซึ่งอันตรายหรือมีปัญหาไม่แพ้กัน เช่นนางสาวอ้อยอยู่กับแม่ซึ่งแยกทางกับพ่อและต่อมาไม่นานแม่ก็ได้สามีใหม่และก็ได้เข้ามาอยู่บ้านด้วยยามที่แม่ไม่อยู่บ้านพ่อเลี้ยงใหม่ก็มักจะลวนลามเธอเป็นประจำบอกแม่แม่ก็ไมเชื่อ จนเธอทนไม่ไหวขืนอยู่กับแม่ต่อไปเธอคงจะพลาดท่าเสียตัวเธอให้พ่อเลี้ยงแน่ เธอจึงขอไปอยู่กับพ่อแท้ๆของเธอ ซีงพ่อก็แต่งงานอยู่กินกับภรรยาคนใหม่เหมือนกัน ต่อหน้าพ่อภรรยาใหม่ของพ่อก็ทำตัวแสแสร้งดีกับเธอทุกอย่างแต่ลับหลังพ่อกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนดุด่าว่าเธอด้วยคำรุนแรงเป็นประจำ หนีจากพ่อเลี้ยงมาก็มาเจอแม่เลี้ยงแบบนี้อีก เรียกว่าหนีเสือปะจระเข้ จนเธอตัดสินใจขอเงินพ่อไปเช่าอยู่หอตามลำพัง



สาวไส้ให้กากิน


    สำนวนไทยนี้มีความหมายว่า การที่เอาความลับหรือเรื่องไม่ดีของตัวเองหรือของญาติพี่น้องหรือเรื่องภายในองค์กรที่ตัวเองเกี่ยวข้องไปเปิดเผยให้คนอื่นรู้ เท่ากับเป็นการประจานตนเองและของญาติพี่น้องหรือองค์กรให้เสื่อมเสีย โดยไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาเลย การกระทำเช่นนี้ส่วนมากสืบเนื่องมาจากความโกธร และขาดความยั้งคิดปล่อยให้อารมณ์พาไป จึงทำเรื่องที่ไม่สมควรกระทำ ดั่งสำนวนสุภาษิตไทยสาวใส้ให้กากินดังกล่าวข้างต้น


ตาบอดได้แว่น

    ความหมายสำนวน ตาบอดได้แว่น หมายถึง คนที่ได้รับสิ่งของใดๆ ที่ตนไม่มีทางจะได้ใช้หรือใช้สิ่งของนั้นๆให้เกิดประโยชน์กับตนเองได้ เปรียบเหมือนกับคนที่ตาบอดที่ไม่มีความสามารถในการมองเห็น แล้วได้แว่นสายตามา ซึ่งก็ไม่สามารถนำแว่นตาที่ได้มานั้นมาใช้สวมใส่ให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองได้เพราะไม่สามารถมองเห็น สำนวนนี้มีความหมายเดียวกันกับ คนหัวล้านได้หวี ซึ่งหวีคนหัวล้านได้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์เหมือนกัน เพราะไม่มีผมจะให้หวีเพราะว่าหัวล้าน เส้นผมหมดจากหัวแล้ว



ตบหัวแล้วลูบหลัง


    สำนวนนี้หมายถึง การกระทำหรือพูดให้กระทบกระเทือนใจในตอนเเรก แล้วกลับทำหรือพูดเป็นการปลอบใจในภายหลัง การใช้สำนวนนี้ส่วนมากจะเป็นผู้มีอายุมากกว่ามักจะใช้กับผู้ที่อายุน้อยกว่า หรือผู้มีอำนาจและตำแหน่งเหนือกว่าจะใช้กับผู้ที่มีตำแหน่งด้อยกว่า เช่นดุด่าว่ากล่าวตำหนิอย่างรุนแรง ได้สักพักก็กลับมาพูดดีในภายหลัง



ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

    ความหมายสำนวนนี้คือ การกระทำอะไรสักอย่างที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ได้สมดุลกันทำให้ผลที่ได้รับสูญเปล่าไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาได้ เช่นลงทุนเล็กน้อยเพื่อทำงานใหญ่ ซึ่งต้องใช้เงินมาก ๆ ย่อมไม่อาจสำเร็จได้ง่าย ต้องสูญทุนไปเปล่า ๆ ก็เหมือนกับการตำน้ำพริกเพียงครกเดียว แล้วนำไปละลายในแม่น้ำ ก็ไม่ทำให้เกิดรสชาติอะไรขึ้นมาได้ สูญเสียน้ำพริกไปอย่างเปล่าประโยชน์



แพะรับบาป


    สำนวนความหมาย แพะรับบาป หมายถึงคนผู้รับกรรมแทนการกระทำของผู้อื่น ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำใดๆนั้นเลยแต่ต้องมารับกรรมแทน อาจจะเกิดจากการถูกกลั่นแกล้งให้ร้ายป้ายสีสร้างหลักฐานอันเป็นเท็จอันมีเหตุให้เชื่อว่ากระทำผิด หรืออยู่ในเหตุการณ์โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว



จับปูใส่กระด้ง


    ความหมายสำนวนนี้ ใช้กับเด็กเล็กที่ซุกซนที่ไม่ยอมอยู่นิ่งหรืออยู่กับที่ แม้บังคับให้อยู่ในระเบียบอย่างไรก็สามารถทำได้ เหมือนกับธรรมชาติของปูมักไม่คอยจะอยู่นิ่งเมื่อจับไปวางตรงไหน มันก็พยายามจะไต่ไปไต่มาอยู่ตลอด แม้จะจับไปใส่ไว้ในกระด้ง ปูก็จะไต่ออกมานอกกระด้งจนได้ เด็กโดยทั่วๆไปก็จะซุกซนไม่อยู่นิ่งเป็นปกติอยู่แล้ว การบังคับเด็กให้อยู่ในระเบียบวินัยอยู่กับที ก็ไม่ต่างกับการจับปูมาใส่กระด้ง



ปากหวานก้นเปรี้ยว


    ความหมายสำนวนนี้หมายถึง คนที่พูดจาอ่อนหวาน แต่ไม่จริงใจ พูดดีต่อหน้าลับหลังกลับนินทาให้ร้าย คนในลักษณะเช่นนี้ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็เป็นการดี เหมือนคนโบราณกล่าวว่าปากหวานเหมือนกับตาลปนน้ำอ้อย แต่ในข้างในเหมือนมีน้ำกรดที่ที่จะเผาไหม้และทำลายเราได้ทุกเวลา



สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น


    สำนวนนี้มีความหมายว่า เรื่องที่เล่าจากปากคนมากๆ ก็อย่าเพิ่งไปเชื่อที่เขาเล่าเสียทีเดียวนักบางทีก็โอ้อวดเกินความเป็นจริง ต้องให้เห็นด้วยตาตนเองเสียก่อนถึงเชื่อถือได้ และถ้าจะให้แน่จริงๆ แล้วก็ต้องได้อยู่กับเหตุการณ์นั้นด้วย หรือได้สัมผัสด้วยมือของตนเองจริงๆนั่นแหละถึงจะเชื่อถือได้อย่างแน่นอน



ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่


    สํานวนนี้มีความหมายว่าการเลือกผู้หญิงที่จะเป็นคู่ครองหรือภรรยานั้นว่าจะเป็นคนแบบไหนอย่างไร ให้ดูจากแม่ของผู้หญิงคนนั้นเป็นตัวอย่าง เพราะลูกสาวจะอยู่ใกล้ชิดและได้รับการอบรมจากแม่ ถ้าแม่เป็นคนสุภาพเรียบร้อย พูดจาไพเราะ ผู้หญิงคนนั้นก็จะสุภาพเรียบร้อยเหมือนแม่ โดยใช้วิธีเปรียบเทียบกับการดูลักษณะของช้างที่มีลักษณะดี ดูสวยงามและแข็งแรง หางช้างต้องตรงยาวขนที่ปลายหางเป็นพุ่ม ตรงปลายพุ่มแหลมรูปทรงคล้ายดอกบัวตูม เมื่อโบกหางไปมาจะเห็นรูปดอกบัวสวยงาม ส่วนลักษณะช้างที่มีลักษณะไม่ดี หางจะคดหรือหักงอ สั้นหรือยาวเกินไป พู่ขนหางบางหรือแหว่งเป็นหย่อม จึงเป็นที่มาของสำนวน ดูช้างให้ดูหางดูนางให้ดูแม่



จับแพะชนแกะ


    ความหมายสํานวนนี้คือ การแก้ปัญหาเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเร่งด่วนเฉพาะหน้าเพื่อให้เหตุการณ์นั้นสามารถผ่านไปได้ก่อน โดยการแก้ปัญหานั้นจะเป็นลักษณะแก้ปัญหาแบบรวกๆไม่มีความสมบูรณ์นัก ขอเพียงให้เรื่องราวหรือปัญหานั้นยุติหรือจบไปก่อนถือเป็นใช้ได้



ไข่ในหิน


    ความหมายสำนวนนี้หมายถึง ของที่ต้องระมัดระวังทะนุถนอมและหวงอย่างยิ่ง ไม่ยอมให้ไครมา ทำอันตรายเด็ดขาดหรือเข้ามาเกี่ยวข้องได้โดยง่าย เช่น พ่อแม่ที่มีลูกสาวคนเดียวที่ทั้งสวยและน่ารักจึงไม่ยอมให้ใครได้เข้ามาจีบได้โดยง่ายเพราะเพราะหวงและดูแลลูกสาวไม่ให้คลาดสายตา จึงไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบเพราะแม่หวงอย่างกับไข่ในหินเลยทีเดียว หนุ่มๆต่างก็กลัวและไม่กล้าฝ่าด่านของพ่อแม่




ข้อควรคำนึงในการใช้สำนวนไทย


 ข้อควรคำนึงในการใช้สำนวนไทย  ได้แก่

            1. ควรใช้ให้ถูกต้องตรงตามความหมาย  นั่นคือ  ผู้ใช้จะต้องเรียนรู้และเข้าใจความหมายของสำนวนอย่างถ่องแท้  จึงจะใช้สำนวนได้ถูกต้องตามความหมาย  เพราะมีสำนวนที่มีคำใช้คล้ายกันแต่มีความหมายต่างกัน  จึงใช้แทนกันไม่ได้  แต่ก็มีบางสำนวนที่มี ความหมายเหมือนกัน  คล้ายคลึงกันอาจใช้แทนกันได้  แต่บางสำนวนแม้จะ มีความหมายเหมือนกันก็ไม่อาจจะใช้แทนกันได้  ทุกสถานการณ์  ดังตัวอย่างสำนวนต่อไปนี้

สำนวน
สำนวน
สำนวน
สำนวน
คาบลูกคาบดอก
ลูกผีลูกคน


ผีกับโลง
กิ่งทองใบหยก


ขี่ช้างจับตั๊กแตน
ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ


คางคกขึ้นวอ
แมงปอใส่ตุ้งติ้ง
กิ้งก่าได้ทอง

หมูในเล้า
หมูในอวย
หญ้าปากคอก

เกลือเป็นหนอน
หนอนบ่อนไส้
ไส้เป็นหนอน

ปัดแข้งปัดขา
ถีบหัวส่ง
เหยียบจมธรณี

ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
ปากว่าตาขยิบ
ปากอย่างใจอย่าง

นกสองหัว
จับปลาสองมือ
เหยียบเรือสองแคม

ไก่ได้พลอย
ตาบอดได้แว่น
วานรได้แก้ว
หัวล้านได้หวี
เอามือซุกหีบ
เอาไม้สั้นไปรันขี้
เอาไม้ซักไปงัดไม้ซุง
ว่ายน้ำหาจนระเข้



       2.ไม่เขียนสำนวนผิดหรือใช้ต่างไปจากสำนวนที่มีใช้อยู่โดยทั่วไปเพราะจะสื่อความหมายไม่ได้  ดังจุดประสงค์  เช่น

สำนวน
สำนวนที่ต่างไป
กงเกวียนกำเกวียน
กงกำกงเกวียน
ขายผ้าเอาหน้ารอด
แก้ผ้าเอาหน้ารอด
ขนมพอสมน้ำยา
ขนมผสมน้ำยา
คงเส้นคงวา
คงวัดคงวา
คาหนังคาเขา
คาหลังคาเขา
งูเงี้ยวเขี้ยวขอ
งูเงี้ยวเขี้ยวหงอน
แจงสี่เบี้ย
ชี้แจงสี่เบี้ย
นกไร้รังโหด
นกร้ายรังโหด
ต้นกุฏิ
ก้นกุฏิ
ติเรือทั้งโกลน
ติเรือทั้งโคลน
ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
ละลายน้ำพริกกับแม่น้ำ
ตกกระไดพลอยโจน
ตกกระไดพลอยโจร  ตกกระไดพลอยกระโจน
ปลาติดหลังแห
ปลาติดร่างแห
ปรักหักพัง
สลักหักพัง
ผีซ้ำด้ำพลอย
ผีซ้ำด้ามพลอย
ผิดเต็มประตู
ผิดเต็มประตูเต็มหน้าต่าง
ทำนาบนหลังคน
ทำนาบนหัวคน
ฤกษ์พานาที
ฤกษ์พานาที
ไม่มีปี่มีขลุ่ย
ไม่มีขลุ่ยไม่มีกลอง
ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน
ไม่ได้พบเดือนพบตะวัน
รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา
รักดีหามจั่ว รักชั่วหามสาว
รู้ธาตุแท้ รู้เช่นเห็นชาติ
รู้เช่นเห็นธาตุ
ศึกเสือเหนือใต้
ศึกเหนือเสือใต้
สู้จนเย็บตา
สู้จนยิบตา
หัวมังกุด ท้ายมังกร
หัวมังกุฎ ท้ายมังกร 
หลงจนหัวปักหัวปำ
หลงจนหัวทิ่มหัวตำ
เอาใจออกหาก
เอาใจออกห่าง



       3. ใช้สำนวนให้ถูกต้องตามสถานการณ์  สอดคล้องกับกาลเทศะและบุคคลและใช้ให้พอเหมาะ ไม่ฟุ่มเฟือย จนไม่อาจสื่อสารได้ดังต้องการ  ดังนั้นควรคำนึงถึงโอกาสและความเหมาะสมเป็นสำคัญ  เช่น

ตัวอย่างสำนวนไทย
สำนวน
ความหมาย
สำนวน
ความหมาย
ก้มหน้า
ก.จำทน  เช่น 
ต้องก้มหน้า
ทำตามประสายาก
กระดี่ได้น้ำ
น.ใช้เปรียบเทียบคนที่แสดงอาการ  ดีอกดีใจ  ตื่นเต้นจนตัวสั่น  เช่น  เขาดีใจเหมือนกระดี่ได้น้ำ
กำเริบเสิบสาน
ก ได้ใจ, เหิมใจ
ก่อร่างสร้างตัว
ก.ตั้งเนื้อตั้งตัวได้
เป็นหลักฐาน
กิ่งทองใบหยก
ว.เหมาะสมกัน (ใช้แก่หญิง กับชายที่จะ แต่งงานกัน)
กินตามน้ำ
 ก.รับของสมนาคุณที่เขา
เอามาให้ โดยไม่ได้ เรียกร้อง (มักใช้แก่เจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้มีอำนาจ)
กินน้ำใต้ศอก
ก.จำต้องยอมเป็นรองเขาไม่เทียมหน้าเทียมตาเท่า,  (มักหมายถึงเมียน้อย
ที่ต้องยอมลงให้แก่
เมียหลวง)
กินอยู่กับปาก 
อยากอยู่กับท้อง
ก.รู้ดีอยู่แล้วแสร้งทำเป็นไม่รู้
แกะดำ
น.คนที่ทำอะไรผิดเพื่อนผิดฝูง
ในกลุ่มนั้น ๆ  (ใช้ในทางไม่ดี)
ไก่รองบ่อน
น.ผู้ที่อยู่ในฐานะตัวสำรอง  ซึ่งจะเรียกมาใช้เมื่อไรก็ได้